Category Archives: Backpack

แบกเป้ เที่ยวธรรมชาติ

ฝากของที่หมอชิต

ฝากของที่หมอชิต

รับฝากของ

วันนี้มาแนะนำที่ฝากสิ่งของสัมภาระที่หมอชิตครับ หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาเวลามา
ขึ้นรถที่หมอชิตแล้วดันมาถึงก่อนเวลารถออก เช่นมารอต่อรถไปตจว.รอบดึกทำให้มีเวลา
ว่างเหลือตั้งหลายชั่วโมงกว่ารถจะออก จะให้มานั่งรอรถในหมอชิตเฉยๆก็ไม่ไหว แต่จะ
ไปเที่ยวเผาเวลาก็ดันไม่อยากแบกสัมภาระไปด้วย จะเอาไปฝากข้างในหมอชิตก็ดันราคา
แพงซะอีก แถมตังก็ไม่ค่อยจะมีเอาไงดีหว่า ตอนนี้มีทางออกแล้วครับ เป็นที่ฝากสัมภาระ
ของบขส.เองเลย จะอยู่บริเวณด้านข้างทางขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นชั้น 3 ตรงข้ามกับร้านกาแฟ
อเมซอน บริเวณด้านหน้าจะมีป้ายบอกราคาไว้อยู่ครับเห็นชัดเลย ราคาจะไม่ได้แพงมาก
แต่ก็มีข้อจำกัดนะครับ คือเขาจะปิดค่อนข้างไวเพราะงั้นถ้าเราเอากระเป๋ามาฝากไว้ที่นี่
ก็ต้องมาเอาคืนก่อนเวลา 2 ทุ่มครับ เพราะงั้นก็ต้องระวังด้วยอย่ามาช้าไม่งั้นเดี่ยวยุ่งครับ

อาเขต เชียงใหม่

สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ แห่งที่ 3 (อาเขต)

Akhet Bus Terminal

ถ้าใครที่ไม่เคยไปเชียงใหม่มาก่อนอาจจะงงกับคำว่า “อาเขต” ว่าหมายถึงอะไร ? เพราะ
ตอนผมจะไปเชียงใหม่ครั้งแรกก็งงนะ ผมเจอคำว่าอาเขตครั้งแรกเลยก็คือตอนที่กำลังจะ
ขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต เด็กรถมาถามว่าลงอาเขตใช่ไหม ผมก็ตอบไปแบบงงๆว่า ลงที่ บขส
เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่า อาเขต คือที่ไหนของเชียงใหม่ จะหันกลับไปถามเด็กรถก็เดินหนี
ไปแล้ว มารู้เอาตอนหลังว่าคนเชียงใหม่เรียกบขส.ว่า อาเขต ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจแบบง่าย
มันก็คือสถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่นั้นเอง หรือจะพูดให้เข้าใจแบบง่ายที่สุดก็คือถ้าที่
กทมก็คือหมอชิต แต่ที่เชียงใหม่คนเชียงใหม่จะเรียกว่าอาเขต นั้นเอง

แต่เดิม จ.เชียงใหม่มึขนส่งช้างเผือก แต่เนื่องจากว่ามีขนาดเล็ก และ คับแคบก็เลยย้ายมา
เปิดที่ใหม่ มีเอกชนมาสนับสนุนพื้นที่ให้คือศูนย์การค้าเชียงใหม่อาเขต แต่เดิมนั้นมีแหล่ง
บันเทิง ดิสโก้ แต่ทำแล้วเจ๊งตึกแถวนั้นยังขายไม่หมดก็ขาดทุน เลยเหลือแต่ขนส่งรถทัวร์
เวลานั้นก็เลยเรียกกันติดปากว่า อาเขต

อาเขต

อาเขต จะมี 2 ที่นะครับ คือ อาเขตเก่า กับ อาเขตใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้กันแต่มีแค่ถนนกั้นแค่นั้น
สามารถลากกระเป๋าเดินข้ามถนนข้ามไปมาหากันได้ ณ ปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงอาเขตจะหมาย
ถึงอาเขตใหม่ (สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ แห่งที่ 3) เวลาที่เราโบกรถแดงแล้วบอกว่า
ให้มาส่งที่อาเขต ก็จะเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงอาเขตสองนะครับ เพราะงั้นก็ไม่ต้องกังวล
ว่าจะส่งผิดที่ ส่วนราคาค่ารถแดงจากในเมืองมาที่อาเขต ก็จะอยู่ที่ 40 – 50 บาท เป็นราคา
มาตรฐานครับ แต่ถ้าเรานั่งรถแดงออกมาจากบริเวณหน้าอาเขต ราคาก็จะปรกติเริ่มที่ 20
แล้วแต่ว่าใกล้หรือไกล คิดตามระยะทางที่เราจะไปลง

อาเขต เชียงใหม่

บริเวณภายในอาเขตก็จะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งรอรถโดยสาร ใครที่ไปช่วงบ่ายอาจจะไม่มีปัญหา
เพราะไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการซักเท่าไหร่ จะนั่งรอนอนรอก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้าไปช่วงเย็น
อาจจะต้องทำใจเพราะคนมาใช้บริการเยอะที่นั่งไม่ค่อยจะมีหรอกครับ บริเวณภายในก็จะ
มีช่องสำหรับขายตั๋วไม่ต่างจากที่หมอชิต จะแยกเป็นของแต่ละเจ้า เดินเข้ามาอีกหน่อยก็
จะเจอร้านค้า ขายของ ขายอาหาร ส่วนห้องน้ำก็มีอยู่ 2 ฝั่ง ราคาค่าบริการครั้งละ 3 บาท
ที่อาเขตใหม่จะไม่มีห้องอาบน้ำไว้บริการนะครับ จะมีก็แต่ห้องน้ำธรรมดาแต่ถ้าคุณอยากจะ
อาบน้ำผมก็แนะนำให้เดินไปที่อาเขตเก่าครับ ให้เดินข้ามถนนมาที่อาเขตเก่าแล้วเดินต่อ
ไปที่ท่ารถของนครชัยแอร์ เข้าไปด้านในจะมีห้องอาบน้ำ ครั้งละ 20 หรือไงนี่แหละ ผมจำ
ราคาไม่ได้แต่สะอาดครับ ยิ่งถ้าคุณใช้บริการรถทัวร์ของนครชัยแอร์ ผมแนะนำให้มาขึ้นที่
ท่ารถของนครชัยจะดีกว่าเพราะติดแอร์เย็นสบายครับ หรือถ้าอยากไปรอที่อาเขตใหม่ก็ไม่
มีปัญหาครับ เพราะรถของนครชัยก็ต้องวนเข้าไปรับผู้โดยสารที่นั้นอยู่ดี

กุหลาบพันปี

กุหลาบพันปี

กุหลาบพันปี

ใครที่เคยขึ้นไปเที่ยวที่ดอยอินทนนท์ อาจจะเคยได้ยินชื่อของต้นไม้ที่ชื่อ กุหลาบพันปี
โดยเฉพาะคนที่เคยไปเดินกิ่วแม่ปานมาแล้ว ผมคิดว่าคงได้มีโอกาสเห็น หรือ สัมผัส
กับต้นกุหลาบพันปีแน่ๆ ตัวผมเองก็พึ่งเคยได้เห็นต้นกุหลาบพันปีแบบใกล้ชิดก็ตอนไป
เดินกิ่วแม่ปานนี่เอง สำหรับต้นกุหลาบพันปีหลายคนอาจจะนึกว่ามันเป็นต้นไม้ชนิดเดียว
กันกับดอกกุหลาบ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย กุหลาบพันปีจัดเป็นไม้พุ่มครับ
อยู่วงศ์เดียวกับกุหลาบป่า ลำต้นออกจะใหญ่หน่อย โตในที่สูงส่วนมากแล้วเราจะพบเจอ
ได้ในสถานที่ที่สูงเกิน 1000 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม
ส่วนใหญ่เราไม่เจอต้นไม้ชนิดนี้ในพื้นราบแต่มักจะเจอแต่แถวยอดดอย หรือ บริเวณที่
ราบสูง ส่วนคำว่าพันปีนั้นไม่ได้หมายถึงว่ามันมีอายุพันปีนะครับ แต่เป็นคำพูดเชิงบอก
ลักษณะของต้นไม้ชนิดนี้ที่มักจะมีมอสส์เกาะบริเวณลำต้น ทำให้ดูคล้ายกับว่ามีอายุนาน
เป็นพันปีก็เลยเรียกรวมกันว่า กุหลาบพันปี

กุหลาบพันปี จะบานช่วงเดือน มกราคม – ต้นมีนาคม อย่างในภาพที่ผมไปถ่ายมาเป็น
ช่วงต้นเดือนธันวาคมจะสังเกตได้ว่าพึ่งจะมีบานออกมาแค่ 1 – 2 ดอกเท่านั้น ถ้าอยาก
เห็นแบบบานเต็มต้นต้องมาช่วงเดือนมกราคมครับ ได้เห็นทั้งดอยแน่นอนสวยมากเลย