Tag Archives: เชียงใหม่

เดินกิ่วแม่ปาน ตอนที่ 3

เดินกิ่วแม่ปาน ตอนที่ 3

กิ่วแม่ปาน

แล้วก็มาถึงตอนที่ 3 จนได้นะ ในตอนแรกผมตั้งใจจะเขียนแบบสั้นๆเพราะมันมีแต่รูป
แต่พอได้ลงมือเขียนแล้วก็ยาวเลย เขียนมาจนถึงตอนที่ 3 ได้ทั้งๆที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
ส่วนใหญ่ไปเดินแล้วก็ถ่ายแต่รูปเพราะวิวมันสวย ลองดูกันไปเรื่อยๆนะครับ

เดินกิ่วแม่ปาน

หลังจากเราเดินมาได้อีกหน่อยก็จะเจอกันจุดถ่ายภาพยอดนิยม ผมเห็นคนไปต่อคิวถ่าย
ภาพกันเยอะมาก เยอะขนาดว่าผมขี้เกียจไปรอคิว ก็เลยเลี่ยงเดินหลบมาอีกทาง วิวตรง
จุดนี้ผมว่าสวยนะ เห็นทะเลหมอกชัดมาก วิวด้านหลังก็สวยมาก

ทางเดินกิ่วแม่ปาน

ถัดจากนี้ไปทางเดินส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบในภาพครับ คือเป็นทางเดินเรียบติดริมหน้าผา
ไปเรื่อยๆ เรื่องวิวไม่ต้องพูดถึงเลย ถ่ายกันจนเบื่อ แต่ก็สวยอยู่ดี ฮ่าๆ เรื่องสำคัญอีกอย่าง
คือแดดช่วงนี้จะจัดมาก สังเกตได้จากน้องที่เป็นไกด์ก็ยังต้องสวมหมวกกันแดดเลย ใครที่
ไปเดินกิ่วแม่ปานก็อย่าลืมเอาหมวกติดมาด้วยนะครับ

ไกด์นำทาง

โฉมหน้าน้องไกด์นำทางของเราครับ น้องชื่อปัญญา เป็นชาวเขาผมจำไม่ได้ว่าเผ่าอะไร
แต่น้องน่ารักครับ คอยบอกคอยแนะนำตลอดเวลา ยิ่งมาเจอพวกขี้สงสัยแบบผมด้วยชอบ
ถามอะไรแปลกๆ แต่น้องก็ไม่บ่นซักคำ

กวาง กิ่วแม่ปาน

เดินต่อมาซักพักจะเจอกับหน้าผาหิน ไกด์เล่าว่าแถวนี้จะมีกวางผา ถ้าโชคดีก็อาจจะเห็น
แต่ผมลองเพ่งมองดูตั้งนาน ส่องมาตั้งนานก็ไม่เห็นก็เลยตกลงกันว่าเดินต่อไป 555


ต้นกุหลาบพันปี

เดินไปเรื่อยซักพักก็เจอกับต้นไม้ในภาพครับ ผมเห็นมันขึ้นที่บริเวณทางเดินหน้าผาเยอะ
มาก พึ่งได้รู้จากน้องไกด์ว่าเขาเรียกว่าต้นกุหลาบพันปี เป็นพืชที่ขึ้นในที่สูงชอบอากาศเย็น
ดอกสีแดงสวยมากเลยนะ

กุหลาบพันปี

ต้นกุหลาบพันปีจะบานเยอะช่วงต้นเดือนมกราคมครับ แต่ตอนผมไปมันยังไม่ค่อยบานเลย
ใครที่ขึ้นดอยอินทนนท์ช่วงเดือนมกราคมอาจจะได้เห็นมันบานเต็มที่นะ แต่ตอนที่ผมไปมัน
เป็นช่วงเดือนธันวาคมเพราะงั้นก็จะเห็นมันบานได้เท่านี่แหละครับ


กิ่วแม่ปาน ริมทางเดิน

ทางเดินช่วงหลังๆผมว่ามันก็อันตรายอยู่นะ ถ้าพลาดตกลงไปก็คงแย่เลยอาจจะไม่ได้เดิน
ลำบากแต่ผมว่ามันอยู่ริมหน้าผาเลย แล้วตัวหน้าผาก็ชัดมากเลย ถึงแม้บางช่วงจะมีที่กั้น
บริเวณทางเดินก็ตาม

พระมหาธาตุเจดีย์แห่งดอยอินทนนท์

หลังจากผ่านเนินเล็กๆมาก็จะเจอทางเดินเล็กๆแยกออกไป ผมเดินตามไกด์ขึ้นไปก็เจอกับ
วิวพระมหาธาตุเจดีย์แห่งดอยอินทนนท์ วิวนี้ผมว่าสวยนะ แต่มันย้อนแสงไปหน่อย

จบกิ่วแม่ปาน

หลังจากนั้นทางเดินก็เริ่มกลับมาเป็นป่าอีกครั้ง นั้นก็หมายความว่าการเดินกิ่วแม่ปานของเรา
กำลังจะจบแล้ว เดินต่อไปอีกซักพักก็จะเจอทางออกซึ่งก็คือทางเดียวกับที่เราเดินเข้ามานั้น
แหละครับ หลังจากเดินเสร็จแล้วก็อย่าลืมจ่ายเงินค่าไกด์ด้วยนะครับ ถ้าถามว่า 3 กิโลเหนื่อย
ไหมมันก็เหนื่อย แต่ถามว่าคุ้มไหมก็ตอบตรงๆว่าคุ้มมาก โดยเฉพาะวิวของกิ่วแม่ปานมันมอง
ออกไปได้กว้างมาก สุดลูกหูลูกตาเลย บอกเลยว่าแค่เห็นวิวก็คุ้มกับการเดินแล้วครับ

เดินกิ่วแม่ปาน ตอนที่ 2

เดินกิ่วแม่ปาน ตอนที่ 2

หลังจากที่เราติดต่อกับคนนำทางท้องถิ่นเรียบร้อยแล้วก็เริ่มเดินกันได้เลยครับ ทางช่วงแรก
จะเดินสะดวก เส้นทางเป็นลักษณะเหมือนมีบันไดให้เราเดิน ไม่ต้องรีบครับเดินชิวๆได้เลย

เดินเข้ากิ่วแม่ปาน

เดินไปซักพักก็จะเจอกับน้ำตกแห่งแรกผมจำชื่อน้ำตกไม่ได้นะ แต่เป็นน้ำตกที่เสียงค่อนข้าง
จะดังเลยทีเดียว ได้ยินเสียงน้ำแตกกระเซ็นตั้งแต่ยังไม่เห็นน้ำตกเลย จะเห็นคนมายืนรอถ่าย
ภาพกันเพียบเลย

น้ำตกในกิ่วแม่ปาน

หลังจากนั้นเดินมาเรื่อยๆก็จะเจอสะพาน เจอลำธารเล็กๆ เห็นแล้วสบายหูสบายตามากๆครับ
ผมพูดเลยว่า ถ้าในชีวิตประจำวันของคุณเจอรถติดเจอควันพิษทุกวันๆ การได้มาเจอธรรมชาติ
แบบนี้ คุณจะรู้สึกว่าผ่อนคลายมากๆ มันเหมือนเวลาหยุดนิ่งเลยนะ ผมไปยืนกลางสะพานมอง
ลงไปที่ลำธารฟังเสียงน้ำไหล แบบว่ามันเป็นความสุขเล็กๆนะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน

สะพานไม้

น้ำใสมากครับ มองเห็นทรายที่อยู่ใต้น้ำเลย มีพืชน้ำขึ้นด้วยน้ำสะอาดแน่นอน เห็นแล้วอยากลง
ไปกินเลยหละ

น้ำใส

หลังจากนั้นก็เดินต่อมาเรื่อยๆครับ เส้นทางจะเป็นป่าเมฆเป็นส่วนมาก มีเดินขึ้นเดินลงเนินสลับ
กันบ้างไปมา เส้นทางเดินช่วงนี้ถ้าคนนำทางเดินไวเกินไปแล้วเรารู้สึกว่าเริ่มเหนื่อยก็บอกให้คน
นำทางเดินช้าลงก็ได้นะครับ ตัวผมเองตอนที่เดินมาถึงช่วงนี้ก็เริ่มมีอาการหอบแฮกๆเหมือนกัน
ต้องหยุดกินน้ำเป็นพักๆ

คนนำทางผมแกเก่งมากเดินไม่พักเลย ผมไม่เห็นแกมีอาการหอบเลยนะ ส่วนผมเดินไปกินน้ำไป

หลักจากเดินในป่ามาซักพักใหญ่ก็เริ่มเจอสิ่งสวยงามครับ ออกจากป่ามาได้ก็จะเห็นแบบในภาพ
นี่แหละครับ ภาพแบบที่เห็นตามรีวิวเลยทีเดียวเชียวแต่ผมคิดว่า ในสายตาผมสิ่งที่เห็นมันสวยกว่า
นั้นมากนะ ผมเองอาจจะถ่ายถาพกากก็เป็นได้ก็เลยได้ภาพเท่าที่เห็น


มีทางเดินเล็กๆไปสู่ยอดเขา เมื่อมองออกไปด้านข้างก็จะเจอกับทะเลหมอก ผมมาช่วง 9 โมง
กว่าก็ยังสามารถเห็นทะเลหมอกได้นะ ตัวผมได้มีโอกาสถามคนนำทางเขาบอกว่าต้องมาก่อน
เวลา 10 โมง ถึงจะมีโอกาสเห็น แต่ถ้าจะให้แน่นอนก็ให้มาตอนเช้าครับชัวร์ที่สุดได้เห็นแน่นอน

วิวกิ่วแม่ปาน
ทะเลหมอก

ตัวผมเองเห็นทะเลหมอกมาเยอะ แต่ผมว่าทะเลหมอกที่กิ่วแม่ปานนี่สวยแบบอธิบายไม่ถูกนะ

มองออกไปเห็นหน้าผาตัดกับทะเลหมอก สวยงามดีครับ มองไปทางไหนก็สดชื่นเริ่มเห็นวิวสวยๆ
มากขึ้นเรื่อยๆ

กิ่วแม่ปาน
วิวกิวแม่ปาน

เส้นทางหลังจากเจอหน้าผาก็จะเจอแต่วิวสวยๆแล้วครับ ถ้ามาถึงกิ่วแม่ปานแล้วได้เจอหน้าผาก็
แสดงว่าภาพสวยๆวิวดีๆกำลังรอคุณอยู่ เตรียมกล้องไว้ให้พร้อมเลยครับ

เดินกิ่วแม่ปาน ตอนที่ 1

ไปดอยอินทนนท์ เดินกิ่วแม่ปาน ตอนที่ 1

ผมเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ ในชีวิตของผมถือว่าเป็นการไปเยือนดอยอินทนนท์เป็นครั้งที่ 2
ครั้งแรกสุดคือปี 2555 ครั้งนี้คือครั้งที่ 2 กับการไปเยือนยอดดอยอินทนนท์ ครั้งนี้จะต่าง
จากเมื่อตอนที่ผมมาครั้งแรก เพราะครั้งนี้ผมมีประสบการณ์แล้วว่าจะต้องไปนั่งรถที่ไหน
ต้องทำอะไรยังไงบ้าง พูดง่ายๆว่าเรียนรู้มาจากครั้งแรกที่พลาดไป ผมมาเชียงใหม่ครั้งนี้
เลยต้องพยายามตามเก็บสิ่งที่พลาดไปจากครั้งก่อน ครั้งนี้ผมตั้งใจจะมาเดินที่กิ่วแม่ปาน
เป็นพิเศษ เนื่องจากว่าได้ไปเห็นรีวิวมาจากหลายๆเว็บไซต์ว่าน่าเดินมาก และระยะทาง
ก็ไม่ได้ไกลมาก ประมาณ 3 กิโลเอง ผมเลยกะว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ที่สำคัญก็คือ
แฟนของผมก็อยากไปเดินเหมือนกัน แฟนผมเป็นคนชอบลุยแล้วก็ชอบเดิน และเมื่อสิ่ง
ที่ต้องการตรงกันการเดินทางเลยเกิดขึ้น

ประตูเชียงใหม่

ผมตื่นแต่เช้าตั้งแต่ตี 5 รีบเดินทางออกจากที่พักประมาณเกือบๆ 6 โมงเช้า เดินออกมา
โบกรถแดงให้ไปส่งที่คิวรถจอมทอง เสียค่ารถแดงไปคนละ 20 บาท คิวรถไป อ.จอมทอง
สังเกตง่ายครับ จะอยู่ตรงข้ามบริเวณประตูเชียงใหม่ ผมมาถึงคิวรถตั้งแต่พระอาทิตย์ยัง
ไม่ขึ้นจากขอบฟ้า ยังเช้าอยู่อากาศก็เย็นสบาย ที่สำคัญคือช่วงเช้ารถไม่ค่อยเยอะมากครับ
อากาศเย็นดีมาก

คิวรถจอมทอง

ค่ารถจากคิวรถประตูเชียงใหม่ไป อ.จอมทอง ตกคนละประมาณ 40 บาท ก่อนขึ้นรถผม
แนะนำว่าคนที่ไม่เคยมาแล้วกลัวจะหลง ก็ให้บอกกับคนเก็บเงินว่าลงที่หน้าวัดพระธาตุศรี
จอมทองถ้าถึงแล้วให้บอกด้วย จาก อ.เมืองเชียงใหม่ มาที่ อ.จอมทองระยะทางประมาณ
50 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อถึงตรงบริเวณหน้าวัด
พระธาตุศรีจอมทองให้เดินมาหน่อย จะมีคิวรถขึ้นดอยอินทนนท์ครับ มีทั้งรถสองแถว กับ
รถตู้เลือกได้ว่าจะไปแบบเหมา หรือไปแบบแชร์

ด่านตรวจ ดอยอินทนนท์

เมื่อรถมาถึงด่านตรวจเราก็ลงมาจ่ายค่าเข้าอุทยานกันก่อนครับ ราคาผู้ใหญ่คนละ 50 บาท
สำหรับเด็ก 20 บาท ไม่รวมของยานพาหนะอีกนะครับ ถ้าเป็นรถกระบะรู้สึกจะจ่าย 80 บาท
จ่ายเสร็จแล้วก็จะได้ใบเป็นหลักฐานเก็บไว้ให้ดีนะครับ เพราะเข้าไปข้างในจะมีด่านตรวจอีก
หลังจากนั้นผมให้รถขับยาวเลยไปที่ยอดสูงสุดเลย ไปรับอากาศเย็นบนยอดซักหน่อย

รถกระบะขึ้นดอย
ขึ้นดอยอินทนนท์

ตัวผมมาครั้งนี้ใช้บริการของรถกระบะแบบเหมา เวลาขึ้นดอยอินทนนท์ผมชอบนั่งท้ายกระบะ
ผมว่าอากาศมันเย็นดีผมชอบนะให้ลมตีหน้าเพราะมันเย็นสะใจดี อีกอย่างคือมันถ่ายภาพได้
สะดวกกว่าในรถตู้ ตัวผมเลือกแบบเหมาเพราะต้องไปเดินกิ่วแม่ปานเป็นหลัก ไม่เน้นเที่ยว
ที่อื่น ออกจากด่านตรวจมาได้ก็ให้ขับขึ้นมาที่ยอดดอยก่อนเลย

ถนนบนดอยอินทนนท์

ระหว่างที่นั่งรถขึ้นมาอากาศก็จะเย็นขึ้นเรื่อยๆครับ จากด่านตรวจแรกอากาศอาจจะแค่เย็นๆ
พอขับขึ้นมาสูงขึ้นเรื่อยๆ อากาศก็จะหนาวมากขึ้นบางทีอาจจะเจอหมอกจางๆก็เป็นได้ใครที่
แพ้อากาศหนาวผมแนะนำให้พกเสื้อแจ็คเก็ตกันลมติดตัวมาด้วยช่วยได้เยอะเลย

กิ่วแม่ปาน
ระยะทาง กิ่วแม่ปาน

บอกก่อนว่า กิ่วแม่ปานจะอยู่ช่วงระยะกิโลเมตรที่ 42 จากด่านตรวจแรกครับ เรียกว่าถ้าขับรถ
ขึ้นมาอีกไม่กี่กิโลก็จะไปถึงยอดดอยอินทนนท์แล้ว และถ้ามาช่วงเช้าอาจจะหาที่จอดรถลำบาก
นิดหน่อย เพราะตรงนี้เป็นจุดที่คนมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกันตอนช่วงเช้ามืด รถจอดกันเพียบแต่
ถ้ามาช่วงสาย 8-9 โมงก็จะไม่ลำบากเท่าไหร่ เพราะคนไม่ค่อยเยอะแล้วครับ

ด้านหน้ากิ่วแม่ปาน

กิ่วแม่ปานสูงจากระดับน้ำทะเล 2157 เมตร หากว่าใครสงสัยที่ความสูงระดับนี้อากาศเย็นไหม
ผมตอบได้เลยว่าเย็นแน่นอนครับ โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม – มกราคมเจออุณหภูมิเลขตัว
เดียวแน่ๆ ที่สำคัญอีกอย่างคือแดดจัดมาก สาวคนไหนกลัวแดดก็ทาครีมกันแดดไว้เลย หรือจะ
พกหมวก,ร่มเล็กๆ ติดมือมาด้วยก็ดีนะครับช่วยกันแดดได้ดีมาก

ทางเข้า กิ่วแม่ปาน

ถ้าเจอป้ายนี้ก็แสดงว่าถึงกิ่วแม่ปานแน่นอนแล้วครับ เดินเข้าไปข้างในได้เลย เมื่อเข้ามาแล้ว
อันดับแรกก็ไปลงทะเบียนลงชื่อเพื่อใช้บริการไกด์นำทางท้องถิ่นก่อนเลยครับ ค่าบริการอยู่ที่
ประมาณ 300 บาท จ่ายตอนเดินเสร็จแล้ว กลุ่มนึงไปได้ 3 – 5 คน ถือว่าราคาไม่แพงเลยครับ

คนนำทาง กิ่วแม่ปาน

บริเวณก่อนทางขึ้นกิ่วแม่ปานจะมีบอกไว้ครับว่าเราต้องเตรียมอะไรไปบ้าง สำหรับของจำเป็น
ในการเดินกิ่วแม่ปาน หลักๆเลย ผมสรุปมาให้แล้วครับ
1.หมวก เนื่องจากว่าแดดจัดมาก ยิ่งตอนช่วงที่เดินริมหน้าผาต้องมีหมวกครับ
2.เสื้อแจ็คเก็ตกันลม กันแดด เนื่องจากว่าลมแรงมากครับ และ แดดก็จัดมาก
3.รองเท้าดีๆซักคู่ จะเป็นแบบรัดส้น หรือ หุ้มส้นก็ได้ครับ ถ้าเป็นแตะธรรมดาผมไม่แนะนำนะ
4.น้ำ ถึงจะเดินไม่ไกลมาก แต่ระยะทาง 3 กิโลเมตรมันก็เยอะอยู่นะครับ ผมว่าพกติดตัวไว้ซัก
ขวดก็ดีครับ ตัวผมเองตอนไปเดินก็พกไป 2 ขวดขนาด 1.5 ลิตร ก็กินจนหมดเลย แม้แต่ไกด์
นำทางที่เป็นคนท้องถิ่นก็ยังต้องพกน้ำติดตัวไว้เลยครับ เพราะงั้นพกติดมือไปซักขวดเพื่อความ
สบายใจ
5.กล้อง , ขาตั้งกล้อง ถ้าคุณเป็นคนชอบถ่ายรูปแนะนำว่าให้เอากล้องติดตัวไปด้วยครับ วิวที่นั้น
สวยๆเยอะมาก หรือจะพกแบ็ตสำรองเผื่อไปด้วยก็โอเคเลยครับ ได้ถ่ายได้ใช้แน่ๆ