วันนี้เข้าไปในเพจของร้านกาแฟชมพู่มะเหมี่ยวจะเข้าไปเช็คดูว่าที่ภูกระดึงหมดฝนหรือยัง
แต่เข้าไปได้ก็ประหลาดใจกับอุณหภูมิที่เห็นนะ แค่ 10 องศาเอง ทั้งๆที่วันนี้ก็พึ่งจะวันที่ 1
พฤศจิกายนเท่านั้น ปรกติแล้วอุณหภูมิที่ภูกระดึงช่วงนี้จะอยู่ที่ 14 – 16 องศาซะมากกว่า
ส่วนฝนก็ยังมีเหมือนเดิม ยังไม่ได้หมดแบบถาวรอาจต้องรอช่วงปลายเดือนถึงจะหมดฝน
ใครขึ้นภูกระดึงช่วงนี้ก็อย่าลืมพกเสื้อกันฝนไปด้วยนะ มีโอกาสได้ใช้สูงมาก รวมถึงโอกาส
ในการเจอทากก็ยังสูงอยู่ด้วย ใครไม่อยากเจอทากและฝน ผมแนะนำรอไปช่วงปลายเดือน
จะสบายตัวสบายใจที่สุดครับ แถมมีโอกาสได้เจอใบเมเปิ้ลแดงด้วยนะถ้าความหนาวมาไว
แบบนี้แจ๋วเลย …

ไฟป่าบนภูกระดึง

หลายท่านที่เคยไปภูกระดึงช่วงเดือนมกราคม – มีนาคมก็อาจจะเคยเห็นปัญหาอย่างหนึ่ง
ของภูกระดึงนะครับนั้นก็คือไฟป่า หลายคนอาจจะคิดว่าปัญหาไฟป่าอาจจะมีเฉพาะแถว
ภาคเหนือ แต่ความเป็นจริงแล้วก็มีทั้งประเทศแหละครับ โดยเฉพาะทางภาคอีสานที่มีป่า
เยอะเช่นแถว จ.เลย จ.เพชรบูรณ์ แถวนี้มีไฟป่าทุกปีครับจนแทบจะเป็นเรื่องปรกติไปแล้ว

สำหรับภูกระดึงนั้นก็มีไฟป่าอยู่ทุกปีเช่นกันครับ บางปีอาจจะมีน้อยแต่บางปีอาจจะมีมาก
ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจนะว่าคนที่เขาเผาเขาจะเผาไปเพื่ออะไร ในเมื่อภูกระดึงนั้นก็เป็นเขต
อุทยานแห่งชาติอยู่แล้ว คุณไม่สามารถเอาอะไรออกไปจากเขตอุทยานได้อยู่แล้ว เผาไปก็
ไม่มีประโยชน์อะไร คิดแล้วก็เสียดายกับพื้นที่ป่าที่สูญเสียไปกับไฟไหม้ บางปีก็ไฟไหม้ไป
เป็นพันไร่เลยทีเดียวครับ เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ต้องมาคอยดับไฟ ต้องมาทำแนวกันไฟป่า
ที่เดือดร้อนสุดก็คงหนีไม่พ้นสัตว์เจ้าป่าอย่างช้างป่าครับ เมื่อไม่มีต้นไม้ให้หากินด้านล่ีางก็
จำเป็นต้องขึ้นมาหากินด้านบนภูกระดึง ก็เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ต้องคอยขับรถตรวจตรา
ไม่ให้ช้างคอยทำร้ายนักท่องเที่ยว ถ้าใครเคยเดินไปเส้นทางริมหน้าผาก็จะเจอเจ้าหน้าที่
ขับรถมอเตอร์ไซค์อยู่บ่อยๆก็นั้นแหละครับใช่เลย ท้ายที่สุดแล้วก็เดือดร้อนกันหมดครับไม่
ว่าจะ สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว เพราะความไม่มีจิตสำนึก ว่าอะไรควรทำ
อะไรไม่ควรทำ ปัญหานี้คงต้องรอเวลาอย่างเดียว ช่วยกันปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้มีจิตสำนึก
ไม่ทำแบบที่คนรุ่นเก่าทำมา ก็คงอีกนานเลยทีเดียวครับ