Tag Archives: ภูกระดึง

ภูกระดึงไปเชียงคาน

ภูกระดึงไปเชียงคาน

จากภูกระดึงไปถึงเชียงคาน…

หลังจากเดินลงจากภูกระดึงแล้ว เป้าหมายของหลายคนก็คงหนีไม่พ้นการเดินทางกลับ บางคนเอารถมาเองก็
ต้องขับรถกลับบ้านแบบหมดสภาพ บางคนก็ไปนั่งรถสองแถวเพื่อไปต่อรถทัวร์กลับกทมที่ร้านเจ๊กิม แต่โดยส่วน
ใหญ่ที่เห็นมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ก็มักจะมาต่อรถที่ร้านเจ๊กิมนี่แหละ แต่สำหรับบางคนที่ยังมีแรงเหลือหรือยัง
ไม่อยากเดินทางกลับบ้าน ก็อาจจะลองไปแวะค้างนอนพักที่เชียงคานก่อนซัก 1- 2 คืน การเดินทางไปเชียงคาน
ก็ไม่ยากเลย ให้มาซื้อตั๋วเดินทางต่อรถที่ร้านเจ๊กิมได้เลยครับ ตรงด้านข้างร้านเจ๊กิมจะมีที่ขายตั๋วรถโดยสารอยู่

เชียงคาน

สำหรับการนั่งรถจากภูกระดึงไปที่เชียงคาน เราสามารถขึ้นรถที่ร้านเจ๊กิมได้ตลอดทั้งวันครับ มีรถไปถึงเชียงคาน
ตลอดตั้งแต่เวลา เช้า – เย็น เป็นรถของบริษัทนครชัยขนส่ง ราคาค่ารถจากภูกระดึงถึงเชียงคาน จะอยู่ที่ 115 บาท
โดยประมาณ เป็นรถ ป.1 นครราชสีมา – เชียงคาน ตอนผมไปเชียงคานครั้งแรกผมก็นั่งของนครชัยขนส่งนี่แหละ

ค่ารถไปเชียงคาน

สำหรับใครที่อยากเดินทางต่อไปที่เชียงคาน หลังจากเดินลงจากภูกระดึงแล้ว ผมแนะนำแบบนี้นะครับ ถ้าเราออก
เดินทางจากภูกระดึงให้เร่งฝีเท้าตอนที่เดินลงมาจากภูกระดึงซักนิดจะดีกว่าและพยายามมาถึงร้านเจ๊กิมก่อนช่วง
บ่าย 3 เพื่อให้ทันเที่ยวรถที่จะไปเชียงคานตอนเวลาบ่าย 3 โมง รถโดยสารจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ถ้าคุณลงมาถึงช้ากว่านี้ก็อาจจะลำบากนะครับ เพราะต้องไปรถเที่ยวหลังแล้วคนก็จะเยอะด้วย ที่สำคัญคือเมื่อไปถึง
เชียงคานมันก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว และยิ่งคุณไม่ได้จองที่พักมาก่อนด้วยหละก็เดินขาลากกันเลยทีเดียวครับ

เตรียมของไปภูกระดึง

ของจำเป็น 5 อย่างที่ควรเอาติดตัวเวลาไปภูกระดึง

ของจำเป็น ภูกระดึง

วันนี้ผมมาแนะนำของจำเป็น 5 อย่างที่ควรเอาติดตัวเวลาไปภูกระดึง จะพูดว่าเป็นของที่ขาดไม่ได้เลย
ก็ยังได้ หรือจะเรียกว่าถ้าไม่มีของจำเป็นพวกนี้แล้วคุณอาจจะลำบากเวลาไปภูกระดึง เราลองมาดูกัน
ว่าจะตรงกับที่เพื่อนๆคิดกันหรือเปล่า

1.กระเป๋ากันน้ำ หรือ ถุงกันน้ำ
ถ้าคุณไปภูกระดึงช่วงเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน ผมแนะนำว่าให้คุณหาถุงกันน้ำมาใช้
หรือ จะเป็นพวกกระเป๋ากันน้ำก็ได้ ให้พกติดตัวไว้เลยโอกาสที่คุณจะได้ใช้งานมีสูงมาก โดยเฉพาะ
ช่วงเดือนตุลาคม ฝนจะตกบนภูกระดึงแทบทุกวัน บางครั้งตกหนักถึงขนาดนอนในเต็นท์ไม่ได้เลย
ถุงกันน้ำพวกนี้หน้าที่หลักของมันก็คือ ช่วยป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคของคุณไม่ให้เปียกน้ำฝน
ไม่ว่าจะเป็นกล้อง เลนส์ มือถือ หรืออะไรก็ตามที่โดนน้ำไม่ได้ บนภูกระดึงคุณไม่มีทางรู้เลยว่าฝน
จะตกลงมาตอนไหนหรือเมื่อไหร่ ที่สำคัญบนภูกระดึงไม่ค่อยมีที่ให้หลบฝนซักเท่าไหร่ เพราะงั้น
อย่าลืมพกติดตัวไปด้วย ผมบอกเลยว่าอุปกรณ์พวกนี้ช่วยคุณได้เยอะครับ

2.เสื้อกันหนาว
ถึงแม้คุณจะขึ้นภูกระดึงในช่วงหน้าร้อนก็ตาม เช่น เดือนมีนาคม – เมษายน แต่เชื่อเถอะว่าอากาศ
บนภูกระดึงก็ยังเย็นสบายอยู่โดยเฉพาะตอนดึก การเอาเสื้อกันหนาวบางๆซักตัวติดมาด้วยก็คงไม่ได้
ลำบากอะไรมาก ถึงแม้หน้าร้อนอากาศช่วงกลางวันอาจจะสูงถึง 35 – 36 องศา แต่ช่วงดึกๆ อาจจะ
ต่ำลงได้ถึง 18 – 19 องศา เพราะงั้นคุณควรเอาเสื้อกันหนาวติดตัวมาด้วยจะดีกว่าแน่ๆ ส่วนหน้าหนาว
คงไม่ต้องพูดอะไรมาก อากาศหนาวมากๆอุณหภูมิเหลือแค่เลขตัวเดียวเท่านั้น หรือบางทีอุณหภูมิหนาว
ขนาดติดลบเลยก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เสื้อกันหนาวธรรมดาเอาไม่อยู่แน่ ควรหาเสื้อกันหนาวดีๆซักตัว
ติดไปด้วย เพราะมันจะทำให้คุณไม่ต้องทรมานเวลานอนตอนดึกจากอากาศหนาวจัด

3.ไฟฉาย
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเดินชิวๆไม่เร่งรีบ ผมแนะนำให้คุณพกไฟฉายติดตัวมาด้วย เพราะคุณจะได้ใช้
มันอย่างแน่นอน และไฟฉายจะกลายเป็นของจำเป็นสำหรับคุณด้วย โดยทั่วไปแล้วภูกระดึงเปิด-ปิด
ไฟ-แสงสว่าง เป็นเวลาครับ เพราะงั้นถ้าคุณเดินขึ้นช้า หรือ เดินกลับจากผาหล่มสักแบบชิวๆ หละก็
คุณจะได้ใช้ไฟฉายแน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อเวลาคุณต้องหาของในเต็นท์ตอนมืดๆ การหาของในเต้นท์
ที่ไม่มีแสงสว่างไม่ใช่งานง่ายเลยครับ หรือลองคิดไปถึงเวลาที่คุณทำของหล่นแล้วต้องหาโดยไม่มี
ไฟฉายดู ว่ามันจะลำบากขนาดไหนหรือลองคิดง่ายๆครับเปิดไฟฉายน่าจะง่ายกว่าเปิดไฟแสงสว่าง
จากมือถือเยอะ เอาไฟฉายติดตัวไปด้วยจะทำให้ชีวิตในเต็นท์ยามค่ำคืนบนภูกระดึงง่ายขึ้นเยอะ

4.ยานวดกล้ามเนื้อ
การเดินขึ้นมาภูกระดึงกับ ระยะทาง 8 กิโลเมตรนั้น ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่ขาของคุณจะไม่
แสดงอาการอะไรออกมาเลย อย่างน้อยที่สุดมันก็ต้องมีอาการเมื่อยล้า หรือ ปวดบวมที่ขาบ้าง ซึ่งยา
นวดคลายกล้ามเนื้อพวกนี้สามารถช่วยคุณได้ครับ มันไม่ได้ทำให้อาการปวดหายไปโดยฉับพลันแต่
มันช่วยให้บรรเทาเบาลงได้ ผมแนะนำให้คุณนวดผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อเมื่อคุณเดินขึ้นมาถึงที่พักแล้ว
เพราะมันจะทำให้คุณมีแรงเดินต่อไปในวันรุ่งขึ้น พกติดตัวไว้นวดซักหลอดไม่ว่าจะยี่ห้อเค้าเตอร์เพน
หรือยี่ห้ออื่น เพราะเวลาที่เมื่อยมากๆมันช่วยได้เยอะจริงๆ

5.เงิน
พูดถึงเรื่องเงินหลายคนอาจจะฟังดูตลกแต่มันคือเรื่องจริง บนภูกระดึงไม่มีตู้เอทีเอ็มครับ ถ้าคุณอยาก
กดเอทีเอ็มต้องกดที่ร้านเจ๊กิมซึ่งจะมีตู้เอทีเอ็มกรุงไทยติดอยู่ที่ด้านหน้าร้าน หรือ ไม่ก็กดที่ด้านหน้า
อุทยานด้านล่าง เพราะงั้นการเตรียมเงินไปจากบ้านดีที่สุดครับ การพกเงินสดติดตัวเผื่อไว้ก็ไม่ใช่เรื่อง
เสียหายอะไรเลย โดยเฉพาะธนบัตรย่อยจำพวกแบงค์ 50 , 100 บาท เพราะอย่าลืมว่าของทุกอย่างบน
ภูกระดึงต้องขนส่งขึ้นมาจากด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ผ้าห่ม อาหาร หรือ กาแฟยามเช้า ที่สำคัญคือ
บนภูกระดึงนั้นขับเคลือนด้วยเงินตราครับ ของที่ขายบนภูกระดึงนั้นมีค่าขนส่ง การพกเงินไปเผื่อซัก
1000 – 2000 ก็ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไรมากมายหรอกครับ

จองตั๋วรถก่อนไปภูกระดึง

จองตั๋วรถก่อนไปภูกระดึง

เวลาเดินทางไป ภูกระดึง ทุกครั้งผมมักจะใช้บริการของรถทัวร์โดยเฉพาะของรัฐอย่างบขส.(ด่วน 999)
เพราะผมคิดว่ามันเป็นรถทัวร์ที่เชื่อใจได้ที่สุดของสายนี้ นั่งรถของเจ้าอื่นแล้วไม่โดนใจเท่าของ บขส.นะ
บอกก่อนเลยว่าโดยปรกติแล้วผมก็จะไปซื้อตั๋วเอาไว้ ก่อนจะเดินทางประมาณ 3 – 4 วัน ยิ่งถ้าปีไหนออก
เดินทางวันศุกร์ด้วยแล้วก็ต้องจองล่วงหน้า 1 อาทิตย์เป็นอย่างน้อยเลยนะ สำหรับรถสายนี้ส่วนใหญ่แล้ว
คนจะนิยมนั่งของ บขส. มากกว่าเจ้าอื่นๆ แล้วถ้าคุณไม่ได้จองล่วงหน้า แต่อาศัยว่าไปซื้อวันที่จะเดินทาง
บอกได้เลยว่าโอกาสจะเจอที่ว่างน้อยมาก ยกตัวอย่างปีนี้ 2558 ผมตั้งใจว่าจะไปภูกระดึงช่วงปลายเดือน
พฤศจิกายน แต่พอลองเข้าไปเช็คที่นั่งว่างจากในเว็บไซต์แล้วก็ถึงกับเซ็งเลยนะ เพราะรถเต็มไปเกือบ
หมดแล้ว หลายเที่ยวไม่มีที่ว่างให้เราได้จองล่วงหน้าเลย ขนาดเช็คล่วงหน้า 3 อาทิตย์นะ ผมลองเช็คดู
วันที่ 5 พฤศจิกายนไปล่วงหน้าอีก 3 อาทิตย์คือวันที่ 26 หรือ 27 ดูว่าว่างไหม ผลก็ตามภาพเลยครับ
เที่ยวที่จะไปเต็มหมด …

รถไปภูกระดึง

ใครคิดจะไปภูกระดึงโดยที่ไม่จองตั๋วไว้ก่อนก็เหนื่อยหน่อยครับ จะให้นั่งรถเที่ยว 2 ทุ่มไปถึงผานกเค้า
ตอนตี 3 กว่าผมว่ามันก็ยังไงอยู่นะ อากาศหนาวๆไปนั่งรอรถสองแถวในที่เปลี่ยวๆ น่ากลัวนะ ถ้าจะไป
ยังไงก็ต้องจองไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ