Tag Archives: การเดินทาง

รถเมล์สายใหม่

รถเมล์สายใหม่

รถเมล์

วันนี้ผมจะมา Update ข่าวของรถเมล์ให้ฟังกันครับ เรื่องของเรื่องเลยก็คือว่า
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อ ขสมก.นั้นต้องการปฎิรูป
เปลี่ยนแปลกรถเมล์ใหม่ยกชุดครับ พูดง่ายๆก็คือต้องการให้เป็นสากลมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากการเรียกชื่อสายรถเมล์ให้เป็นภาษาสากลมากขึ้น นั้นรวมถึง
เปลี่ยนระบบเก็บเงิน(ในอนาคต) ตัวผมเองไม่ได้มีปัญหากับการเปลี่ยนแปลงนะ
ยินดีด้วยซ้ำไป แต่ก็เห็นหลายๆคนบ่นเหมือนกัน หลายคนอาจจะงงว่าเปลี่ยนแล้ว
จะเป็นยังไง ผมก็ตอบได้เลยว่าเปลี่ยนแล้วก็ไม่เหมือนเดิมครับ ไม่ว่าจะเป็นเลข
หรือ เส้นทางวิ่งในหลายๆสาย ผมจะลองยกตัวอย่างสายรถเมล์แถวบ้านผมให้ดู
ก็แล้วกัน เช่น

สาย 1 อยู่เขตการเดินรถที่ 4 วิ่งเส้นทาง ถนนตก – ท่าเตียน แต่พอปรับใหม่ก็จะ
ได้เลขสายใหม่เป็นสาย R36 เส้นทางวิ่งก็เปลี่ยนจากสุดที่ถนนตก ไปสุดที่ห้าง
เซ็นทรัลพระราม 3 แทน จะเห็นได้ว่าเปลี่ยนแบบไม่เหลือเค้าเดิมเลย ทั้งเลข
และ เส้นทาง หรืออีกหนึ่งตัวอย่างก็ได้ สาย 77 เดิมวิ่งจาก เซ็นทรัลพระราม 3
มาหมอชิต 2 ก็จะเปลี่ยนเลขสายจาก สาย 77 ไปเป็นสาย R46 หลายคนอาจจะ
งงว่าตัว R มันหมายถึงอะไร ผมอธิบายแบบนี้ครับว่ามันคือตัวแบ่งการเดินรถ
ตัว R คือ RED หมายถึงเขตการเดินรถที่ 3 กับ 4 พูดง่ายๆคือ ขสมก.ปรับเลข
ตามเขตการเดินรถครับ แบ่งเป็น 4 โซนตาม 4 สี

G – เขตการเดินรถที่ 1 – 2 สีเขียว
ย่านรังสิต บางเขน มีนบุรี
R – เขตการเดินรถที่ 3 – 4 สีแดง
ย่านเจริญกรุง คลองเตย สาธุประดิษฐ์
Y – เขตการเดินรถที่ 5 – 6 สีเหลือง
ย่านพระปะแดง พระราม 2 บางแค
B – เขตการเดินรถที่ 7 – 8 สีน้ำเงิน
ย่านนนทบุรี หมอชิต ดินแดง สวนสยาม

ส่วนอักษรต่อท้ายเช่น R17E ตัว E ก็หมายถึง รถขึ้นทางด่วนครับ อย่างงนะครับ
ใครที่เคยขึ้นรถเมล์บ่อยๆหรือขึ้นเป็นประจำอาจจะต้องปรับตัวกันนานหน่อยครับ
เพราะต้องจำเลขสายใหม่หมด รวมถึงเส้นทางที่รถจะไปถึงด้วย บางสายวิ่งสั้นลง
บางสายวิ่งเส้นทางใหม่ อนาคตอาจจะต้องต้องเปิดมือถือก่อนขึ้นรถเพื่อดูเส้นทาง
ที่รถวิ่งก็เป็นได้ครับ

แชร์ทริปก็ไม่เลว

แชร์ทริปก็ไม่เลว

แชร์ทริป

คุณเคยมีความรู้สึกแบบนี้ไหม แบบว่าเวลาที่คุณไปเที่ยวไหนแล้วอยากจะประหยัดเงินในกระเป๋า
เช่น อยากประหยัดค่ารถ ประหยัดค่าเดินทาง ค่าที่พัก อารมณ์แบบว่าเสียดายตังอยากเอาตังไปทำ
อย่างอื่นมากกว่าที่จะต้องมาจ่ายค่าอะไรพวกนี้คนเดียวอะ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเที่ยวแล้วมีอารมณ์แบบ
นี้ขึ้นมาในหัวหละก็ ผมแนะนำว่าให้คุณเริ่มหาเพื่อนแชร์ค่าทริปได้แล้วครับ สมัยก่อนเวลาผมไปไหน
ก็มักจะไปคนเดียว หรืออย่างมากก็ไปกับแฟน 2 คนแค่นั้น ทำให้เวลาต้องจ่ายค่าเดินทาง ค่าที่พัก
มันก็เสียเยอะอยุ่นะ ซึ่งช่วงหลังผมมีความรู้สึกว่าถึงแม้จะไปกันแค่ 2 คน แต่มันก็ยังแพงมากอยู่ดี
โดยเฉพาะพวกค่าเดินทางเวลาที่เราต้องเหมารถขึ้นดอย หรือ เหมาค่ารถไปเที่ยว ซึ่งวิธีแก้ปัญหา
ของผมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายพวกนี้ก็คือ เราก็หาคนหารเพิ่มสิ หาเพื่อนเพิ่มขึ้นซัก 1 – 2 คนจากที่เดิม
ต้องหาร 2 ก็จะกลายเป็นหาร 4 ถ้ามองในแง่ตัวเลขแบบคิดเป็นเปอร์เซ็นแล้ว จะถึอว่าเราประหยัด
เงินขึ้นได้ 50% เลยเชียวนะ

ลองยกตัวอย่างให้ดู เช่น ถ้าต้องการเหมารถขึ้นดอยอินทนนท์ ราคาจะอยู่ที่ 1600 บาท ถ้าไปกันเอง
2 คนก็อาจจะต้อง หาร 2 เหลือคนละ 800 แต่ถ้าเราหาเพื่อนร่วมเดินทางไปกับเราเพิ่มได้อีก 1-2
คน เราก็อาจจะจ่ายเพียงแค่ 800 บาทเท่านั้น !! กลายเป็นว่าหาร 4 แทนที่จะหาร 2 ประหยัดไปได้
800 บาท สามารถเอาเงินไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะเลยนะ 800 บาท สำหรับผมถือว่าเยอะนะครับ
หรือถ้าโชคดีได้เพื่อนร่วมทริปที่เคยไปสถานที่นั้นๆมาหลายครั้งแล้วก็ยิ่งดีใหญ่เลย ทำให้เราได้รู้
ข้อมูลเบื้องลึกที่เราไม่รู้มาก่อนเช่น ตรงนั้นตรงนี้อาจจะอันตรายต้องระวังหรือ ตรงนั้นตรงนี้สวยกว่า
น่าไปเดินถ่ายภาพมากกว่า แบบนี้ยิ่งถือว่าเจอโชคดีเลยนะ

ส่วนวิธีการหาเพื่อนแชร์ทริปผมก็แนะนำแบบนี้ครับ เราอาจจะไม่ต้องหาเพื่อนที่ไปกับเราทุกที่ก็ได้
เช่นอาจจะหาแค่เพื่อนแชร์ค่ารถที่ต้องเสียเงินมากๆ หรือ ต้องไปไกลๆ แบบนี้ผมว่าโอเคอยู่ มันคุ้ม
ที่จะหา คุ้มที่จะแชร์ร่วมกัน ตกลงกันก่อนขึ้นรถว่าจะจ่ายอะไรยังไงให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกเดินทาง
ส่วนสถานที่หาเพื่อนแนวนี้ก็คงหนีไม่พ้นตามพวกเว็บบอร์ดท่องเที่ยวครับ ไม่ว่าจะ Pantip.com หรือ
เทร็คกิ้งไทย ลองเข้าไปดูครับ หรือจะในเฟสบุคก็ไม่เลวนะ ได้คุยกันก่อน หรือ ได้รู้จักกันสักนิดก่อน
เดินทางร่วมกัน จะทำให้บรรยากาศไม่เงียบตึงจนเกินไป ส่วนใครที่ยังไม่เคยลองแชร์ทริป จะเอาวิธี
ที่ผมแนะนำไปใช้ก็ได้นะครับ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว

ภูกระดึงไปเชียงคาน

ภูกระดึงไปเชียงคาน

จากภูกระดึงไปถึงเชียงคาน…

หลังจากเดินลงจากภูกระดึงแล้ว เป้าหมายของหลายคนก็คงหนีไม่พ้นการเดินทางกลับ บางคนเอารถมาเองก็
ต้องขับรถกลับบ้านแบบหมดสภาพ บางคนก็ไปนั่งรถสองแถวเพื่อไปต่อรถทัวร์กลับกทมที่ร้านเจ๊กิม แต่โดยส่วน
ใหญ่ที่เห็นมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ก็มักจะมาต่อรถที่ร้านเจ๊กิมนี่แหละ แต่สำหรับบางคนที่ยังมีแรงเหลือหรือยัง
ไม่อยากเดินทางกลับบ้าน ก็อาจจะลองไปแวะค้างนอนพักที่เชียงคานก่อนซัก 1- 2 คืน การเดินทางไปเชียงคาน
ก็ไม่ยากเลย ให้มาซื้อตั๋วเดินทางต่อรถที่ร้านเจ๊กิมได้เลยครับ ตรงด้านข้างร้านเจ๊กิมจะมีที่ขายตั๋วรถโดยสารอยู่

เชียงคาน

สำหรับการนั่งรถจากภูกระดึงไปที่เชียงคาน เราสามารถขึ้นรถที่ร้านเจ๊กิมได้ตลอดทั้งวันครับ มีรถไปถึงเชียงคาน
ตลอดตั้งแต่เวลา เช้า – เย็น เป็นรถของบริษัทนครชัยขนส่ง ราคาค่ารถจากภูกระดึงถึงเชียงคาน จะอยู่ที่ 115 บาท
โดยประมาณ เป็นรถ ป.1 นครราชสีมา – เชียงคาน ตอนผมไปเชียงคานครั้งแรกผมก็นั่งของนครชัยขนส่งนี่แหละ

ค่ารถไปเชียงคาน

สำหรับใครที่อยากเดินทางต่อไปที่เชียงคาน หลังจากเดินลงจากภูกระดึงแล้ว ผมแนะนำแบบนี้นะครับ ถ้าเราออก
เดินทางจากภูกระดึงให้เร่งฝีเท้าตอนที่เดินลงมาจากภูกระดึงซักนิดจะดีกว่าและพยายามมาถึงร้านเจ๊กิมก่อนช่วง
บ่าย 3 เพื่อให้ทันเที่ยวรถที่จะไปเชียงคานตอนเวลาบ่าย 3 โมง รถโดยสารจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ถ้าคุณลงมาถึงช้ากว่านี้ก็อาจจะลำบากนะครับ เพราะต้องไปรถเที่ยวหลังแล้วคนก็จะเยอะด้วย ที่สำคัญคือเมื่อไปถึง
เชียงคานมันก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว และยิ่งคุณไม่ได้จองที่พักมาก่อนด้วยหละก็เดินขาลากกันเลยทีเดียวครับ